Posted by : Unknown
วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ตัวช่วยของ “การจัดการความรู้” ความสำเร็จในการจัดการความรู้ขององค์กรขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เรียกว่า ปัจจัยความสำเร็จ (Critical Success Factor : CSF) ปัจจัยเหล่านี้เปรียบเสมือนตัวช่วยของ “การจัดการความรู้” ถ้าตัว ช่วยได้รับการบริหารจัดการที่ดีก็จะมีพลังส่งเสริมให้การจัดการความรู้ได้ผลดีด้วย ตัวช่วยเหล่านี้ได้แก่
1. บรรยากาศและวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความรู้
เช่น การเชิดชู ความรู้และผู้รู้ การมีอิสระในการคิดและทำงาน (เชิงสร้างสรรค์)
การเป็นกัลยาณมิตร โปร่งใส ไว้วางใจ ให้ เกียรติกัน เป็นต้น บรรยากาศและวัฒนธรรมแบบ
“กัลยาณมิตร” จะนำความสำเร็จ ความสุขมาสู่ทุกคนใน องค์กร
จึงสมควรที่ทุกคนจะร่วมมือร่วมใจกันสร้างและรักษาบรรยากาศและวัฒนธรรมดีๆ นี้ตลอดไป
2. ผู้บริหารระดับสูง (Chief of
Executive Officer : CEO) และผู้บริหารจัดการความรู้ (Chief
of Knowledge Officer : CKO) แสดงบทบาทนำที่ชัดเจน
เป็นแบบอย่างที่ดีมีส่วนร่วมใน กิจกรรมสำคัญ ให้ความสนับสนุนอย่างจริงจัง สม่ำเสมอและต่อเนื่อง
3. ทีมงานจัดการความรู้ (Knowledge
Management Team : KM Team) จัดตั้งขึ้นเป็น เอกเทศ
อาจคัดเลือกบุคลากรจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อมาท างานจัดการความรู้เพียงงานเดียว
ได้รับการ พัฒนาทั้งความรู้และทักษะการจัดการความรู้
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบุคลากร และมีการสื่อสารกับ บุคลากรอย่างสม่ำเสมอผ่านหลายช่องทาง
4. บุคลากร เป็นทั้งผู้เรียน ผู้รู้
ผู้สร้าง ผู้แลกเปลี่ยนและผู้ใช้ความรู้ ควรได้รับทราบ วัตถุประสงค์
แผนปฏิบัติการประจำปีและอื่นๆ ของการจัดการความรู้โดยเฉพาะรู้ในส่วนของตนว่า
จะต้อง ทำอะไร ทำอย่างไร ท าแล้วจะได้อะไร ประเมินผลอย่างไร และจะปรับปรุงอย่างไร
มีทัศนคติที่ถูกต้องว่า การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือหรือตัวช่วยอำนวยความสะดวก ลดภาระ
และเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน ประจำวัน มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ
ในการจัดการความรู้
5. แผนและและการปฏิบัติตามแผน ควรให้บุคลากรมีส่วนร่วมการจัดทำแผนเพื่อให้เกิดความ
เข้าใจและการยอมรับในวงกว้าง
แผนแม่บทจะช่วยให้มองภาพในอนาคตของการจัดการความรู้ในองค์กรได้ ชัดเจน
แผนปฏิบัติการประจำปีก็ทำให้เกิดความชัดเจนร่วมกันว่าในแต่ละปีจะต้องทำอะไร ทำอย่างไร
เพื่อ อะไร และวัดผลอย่างไร ความเข้าใจและการยอมรับนี้จะส่งเสริมให้มีการดำเนินการตามแผนได้อย่างราบรื่น
และครบถ้วน
6. เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยให้เกิดความสะดวก
รวดเร็ว ในการรวบรวม จัดเก็บ เผยแพร่ความรู้ รวมทั้งเพิ่มแรงจูงใจในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จึงควรมีเทคโนโลยีการจัดการความรู้ที่เหมาะสมกับองค์กร
เทคโนโลยีนี้ต้องสมดุลกับความสามารถใช้ของบุคลากรด้วย แต่ส่วนมากเทคโนโลยีจะล้ำหน้าความสามารถนี้
ดังนั้นควรพัฒนาบุคลากรในด้านความรู้และทักษะจนสามารถใช้เทคโนโลยีที่มีในองค์กรได้เต็มที
แหล่งที่มา สำนักงานสนับสนุนการจัดการความรู้ กรมอนามัย